หอการค้าเลย หวั่นสลากดิจิทัลทุบเศรษฐกิจ 6 พันล้าน

สลากดิจิทัลพ่นพิษ หวาดหวั่นผู้ค้า จังหวัดเลยไม่มีอาชีพขายลอตเตอรี่ ขาดรายได้ต่อปีกว่า 6 พันล้าน ฟังจากปาก ประธานหอการค้าจังหวัดเลย ณัฐพล เหลืองวงศ์ไพศาล
ประธานหอการค้าชี้กระทบแน่แม้คนเลยไม่มีอาชีพขายลอตเตอรี่ขาดรายได้ต่อปีกว่า 6 พันล้าน จากในกรณีที่กองสลากเปิดขายแบบออนไลน์ โดยผ่านแพลตฟอร์ม จัดจำหน่ายสลากกินแบ่ง หรือสลากดิจิทัล ผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง ในราคา 80 บาท ทำให้ตลาดการค้าขายของผู้นิยมนักพนัน ได้แปรไป แต่ว่าทำให้อาชีพผู้ค้าสลากรายย่อย ที่ไม่มีโควต้าจากกองสลากได้รับความเดือดร้อน และก็มีผลกระทบกับอาชีพแนวทางการขายสลาก จนกระทั่งเป็นเหตุทำให้ผู้ค้ารายย่อยทั่วทั้งประเทศ ปักหลักประชุม ค้างแรม เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกฯเรียกร้อง โดยข้อเรียกให้ปลดผู้อำนวยการ และก็กระดานบริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และก็ขอให้แบ่งสรรโควตาให้กับผู้ค้าสลากรายย่อยตัวจริง
นายณัฐพล เหลืองวงศ์ไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดเลย บอกว่า สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น ถ้าหากผู้ค้าสลากรายย่อยในจังหวัดเลย ที่สมัครสมาชิกขายสลากกินแบ่ง 40,000-50,000 คน ถ้าเกิดมิได้รับการจัดสรรโควต้าจากกองสลาก อาชีพนี้จะหายไปจังหวัดเลยจะขาดรายได้เข้าจังหวัด แต่ละปีไม่น้อยกว่า 6 พันล้านบาท
จังหวัดเลยขึ้นชื่อว่า เป็นเมืองหลวงของสลากกินแบ่ง เพราะมีผู้ค้าสลากรายย่อย โดยยิ่งไปกว่านั้นที่เคยมีโควต้ากว่า 30,000 ราย เมื่อจับกลุ่มที่ไม่มีโควตามีกว่า 60,000 ราย คิดเป็นจำนวนร้อยละ 10 ของปริมาณประชาชนของจังหวัดเลย ซึ่งรายได้ของกลุ่มนี้ถ้าหากจะมีรายได้หรือรายได้ลดน้อยลง จะมีผลเสียสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของจังหวัด จากการดูการหมุนเวียนของรายได้จากผู้ค้าสลากรายย่อยกลุ่มนี้”นายณัฐพล กล่าว
สำหรับกรุ๊ปที่ได้รับโควต้าคนละ 5 เล่ม ทุนเล่มละ 70.40 บาท ขายตามราคาที่รัฐบาลระบุ 80 บาท คนละ 5 เล่มผู้ค้าก็จะได้กำไรงวดละ 5,000 บาท 1 เดือนหรือ 2 งวด ผู้ค้า 1 รายมีผลกำไรจากแนวทางการขายสลากที่ 10,000 บาท เฉลี่ยมีรายได้ต่อเดือนไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท หรือหากคำนวณเป็นปีเงินปริมาณนี้จะส่งผลกับเศรษฐกิจจังหวัดเลยปีละไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท นี้เพียงแค่คิดในราคาอย่างน้อยขายที่ราคา 80 บาท จากที่รัฐบาลระบุ